สารประกอบจำพวกไลปิดในน้ำยาง  สามารถถูกไฮโดรไลซิสกลายเป็นอนุมูลของกรดไขมัน  เช่น  กรดสเตียริค  กรดโอลิอิค  และกรดอะมิโน   อนุมูลของกรดที่เกิดขี้นนี้จะแทนที่โปรตีนตรงผิวของอนุภาคยาง  ทำให้โลหะอิออนซึ่งมีอยู่ในน้ำยาง  ( โลหะอิออนชนิดประจุ  2+  เช่น  แคลเซียม  แมกนีเซียม  ซิงค์ )  ทำปฎิกริยากับกรดไขมันตรงผิวอนุภาคยาง  เกิดเป็นเกลือของโลหะซึ่งไม่ละลายน้ำ  น้ำยางจึงเกิดการสูญเสียสภาพ

จุลินทรีย์ เป็นสาเหตุสำคัญในการที่ทำให้น้ำยางเสียสภาพ  การนับปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์ในน้ำยางเป็นการติดตามการบูดเน่าของน้ำยาง   ซึ่งวิธีการนับปริมาณจุลินทรีย์  ทำได้โดยเจือจางน้ำยางหลายเท่าตัว แล้วใส่ลงไปในถาดเลี้ยงเชื้อ  ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิ  30  องศาเซลเซียส  เป็นเวลา  5  วัน แล้วนับจำนวน  colony  ซึ่งการตรวจสอบแต่ละตัวอย่างจะใช้เวลานานมาก  จึงทำให้ไม่สามารถป้องกันการบูดเน่า แล้วสูญเสียสภาพของน้ำยางที่เกิดขึ้นเร็วมากไม่ได้  จึงมีความพยายามหาวิธีที่จะตรวจสอบการบูดเน่าของน้ำยางเพื่อป้องกันการเสีย สภาพไป  วิธีดีที่สุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ การตรวจหา Volatile fatty acid ( VFA )

 

Volatile fatty acids : VFA

ปี คศ. 1941  W. S.  Davey  จาก  RRIM  ได้พบว่าเกิดกรดที่ระเหยซึ่งสามารถกลั่นด้วยไอน้ำได้  ภายหลังจากการเสียสภาพของน้ำยางสด  กรดที่ระเหยซึ่งกลั่นด้วยไอน้ำได้ เรียกว่า  Volatile fatty acids เรียกแบบย่อว่า VFA ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดที่มีขนาดโมเลกุลเล็ก  ได้แก่  กรดฟอร์มิก  ,  กรดอะซีติก  ,  และกรด  ไพรไพออนิก

ค.ศ. 1953  Philpott  และ  Sekher  ได้พัฒนาวิธีการหาค่า  VFA ที่มีอยู่ในน้ำยาง  และต่อมาได้มีการกำหนดค่า  VFA  ของน้ำยางได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานในระบบ ISO  และมาตรฐานด้านคุณภาพในการซื้อ ขายน้ำยาง

ค.ศ.  1955  A.S.  Cook  และ  K.C.  Sekar  ได้เสนอความสัมพันธ์ระหว่างค่า  VFA  กับคุณภาพน้ำยางข้น  โดยชี้ให้เห็นว่าค่า  VFA  ที่ระดับต่างกันแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของน้ำยางในระดับที่แตกต่างกัน

นิยาม ของค่า  VFA  ที่ได้  หมายถึง  จำนวนกรัมของ  KOH  ที่ทำปฎิกริยาสมมูลพอดีกับกรดที่กลั่นระเหยได้ด้วยไอน้ำ  จากน้ำยางที่มีของแข็งจำนวน  100  กรัม

เชื้อจุลินทรีย์ ที่มีอยู่ในน้ำยาง ทำให้เกิดค่า  VFA  เมื่อในน้ำยางมีเชื้อจุลินทรีย์สูงขึ้น  ก็จะให้ค่า  VFA  สูงขึ้นตามไปด้วย  ดังนั้น  แทนที่จะวัดปริมาณจุลินทรีย์ในน้ำยาง  ซึ่งใช้เวลานานถึง  5  วัน  จึงมีการเลือกใช้ค่า  VFA  เป็นตัวแทน  โดยการวัดค่า  VFA  นั้นจะใช้เวลาเพียงประมาณ  1  ชั่วโมง

  • น้ำยางที่มีคุณภาพดี  มีค่า  VFA  ต่ำ  เช่น  VFA  เท่ากับ  0.02  –  0.04
  • น้ำยางที่มีคุณภาพไม่ดี  มีค่า  VFA  ตั้งแต่  0.1  ขึ้นไป