การจับตัวน้ำยาง : ผลิตเชิงเดี่ยว
การทำยางแผ่นดิบในลักษณะนี้ เป็นวิธีแรกที่ชาวสวนยางทั่วไปใช้กันมานาน ปัจจุบันชาวสวนยางที่ไม่มีการรวมกลุ่มกันทำยางแผ่นดิบ ก็ยังคงใช้วิธีนี้อยู่ ลักษณะเด่นของวิธีนี้คือ รูปแบบการผลิตยางแผ่นดิบและยางแผ่นดิบที่ได้ จะมีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละสวนยางนั้น ๆ แต่ก็ยังมีลำดับขั้นตอนการผลิตที่คล้ายคลึงกันเป็นลำดับ ได้แก่
ขั้นตอนการเตรียมความพร้อม ( เชิงเดี่ยว )
ก่อนเริ่มการผลิตควรตรวจสอบความพร้อมในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ความพร้อมของอาคารสถานที่ : ควรมีอาคารโรงเรือน หรือเพิงแบบง่าย ๆ ที่มีลักษณะโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการรักษาความสะอาด บริเวณพื้นอย่างน้อยควรเป็นพื้นเทคอนกรีต
2. ความพร้อมของอุปกรณ์ต่าง ๆ : ก่อนทำการผลิตควรจัดหาและตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็น ให้มีสภาพพร้อมที่จะใช้งาน อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่จำเป็นในการทำยางแผ่น ได้แก่
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการกรองน้ำยาง
- ตะกง
- ถังสำหรับใส่น้ำยาง และน้ำสะอาด
- โต๊ะสำหรับนวดยาง หรือ พื้นลานที่ใช้นวดยาง
- เครื่องรีดยางชนิดต่าง ๆ
- กระป๋องสำหรับตวงปริมาตรของเหลว
- ภาชนะสำหรับผสมน้ำกรด
- ใบพายสำหรับกวนน้ำยาง และ แผ่นกวาดฟอง
- ราวสำหรับตากแผ่นยาง
3. การเตรียมความพร้อมของสารเคมี หรือวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในการผลิต : สารเคมีหรือวัตถุดิบที่จำเป็นจะต้องนำมาใช้ในการผลิตควรถูกเตรียมให้พร้อมใช้งาน ได้แก่
- น้ำ ควรเตรียมให้มีปริมาตรเพียงพอกับการใช้งาน และเป็นน้ำสะอาด
- กรด ควรถูกเตรียมให้พร้อมใช้งาน มีสัดส่วนการผสมที่ถูกต้อง และมีปริมาตรเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ไม่ควรเตรียมไว้มากเกินไป
- น้ำยางสด
ขั้นตอนการทำยางแผ่นดิบ ( เชิงเดี่ยว )
เมื่อเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบต่าง ๆ พร้อมแล้ว การทำยางแผ่นดิบในลักษณะเชิงเดี่ยวจะมีลำดับดังนี้
- การกรองน้ำยาง เพื่อเอาสิ่งสกปรก หรือสิ่งแปลกปลอมที่มีอยู่ในน้ำยางออกไป เช่น เปลือกไม้ ใบไม้
- ตวงน้ำยางใส่ในตะกงที่เตรียมไว้ ตะกงต้องอยู่ในสภาพที่สะอาดและเปียกน้ำ
- ผสมน้ำสะอาดลงในน้ำยางที่อยู่ในตะกงโดยทั่วไปจะให้อัตราส่วนระหว่างน้ำยางกับน้ำเป็น 3 : 2
- เติมน้ำกรดที่เจือจางเตรียมไว้ผสมกับน้ำยาง แล้วใช้ใบพายกวนน้ำยางในตะกงเล็กน้อย ( ประมาณ 6- 8 เที่ยว )
- กวาดฟองของน้ำยางออกจากตะกง ฟองที่เกิดขึ้นถ้าไม่กวาดออก จะถูกกักไว้ในแผ่นยางทำให้เมื่อนำไปทำยางแผ่นรมควันแล้ว ก็จะเห็นรอยฟองอากาศในแผ่นยาง ทำให้ยางแผ่นรมควันที่ได้ถูกตีชั้นยางต่ำลง ส่วนฟองของน้ำยางที่กวาดออกมา ควรเก็บรวบรวมไว้ในภาชนะเดียวกันเพราะจะนำไปขายเป็นเศษยางได้
- ปล่อยไว้ให้น้ำยางจับตัว ในช่วงเวลาที่รอให้น้ำยางจับตัว ควรคลุมตะกงใส่น้ำยาง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง หรือแมลงต่าง ๆ ลงไปในตะกงน้ำยาง
- นวดแผ่นยางที่จับตัวแล้ว เมื่อน้ำยางในตะกงจับตัวดีแล้ว ก่อนนำออกจากตะกงควรใส่น้ำสะอาดลงไปหล่อในตะกงไว้ จะทำให้การเทยางออกจากตะกงทำได้ง่ายขึ้น เมื่อนำยางออกจากตะกง ต้องนวดให้ยางมีขนาดบางลงพอที่จะนำเข้าเครื่องรีดได้ง่าย การนวดควรทำบนพื้นโต๊ะหรือพื้นคอนกรีตที่สะอาด
- รีดแผ่นยางด้วยเครื่องรีดแบบลื่น แผ่นยางที่ผ่านการนวดที่มีขนาดบางลง จะถูกนำเข้าผ่านเครื่องรีดแบบลื่น 4 – 5 ครั้ง จนบางลงอีกประมาณครึ่งหนึ่งของความหนาเดิม
- รีดแผ่นยางด้วยเครื่องรีดแบบมีดอก แผ่นยางที่ผ่านการรีดด้วยเครื่องรีดแบบลื่น จะถูกนำไปผ่านเครื่องรีดแบบดอกอีกครั้ง เพื่อให้มีขนาดบางลง และลายดอกบนผิวยางจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวให้แผ่นยาง ช่วยให้ความชื้นในแผ่นยางลดลงได้เร็วขึ้น
- ล้างทำความสะอาดแผ่นยาง แผ่นยางที่ผ่านการรีดทั้ง 2 ชุดแล้ว ต้องล้างด้วยน้ำสะอาดเพื่อชำระล้างกรดที่อาจตกค้างอยู่ที่ผิวแผ่นยาง หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่ติดอยู่กับผิวของแผ่นยางออก
- ผึ่งแผ่นยาง เมื่อล้างแผ่นยางด้วยน้ำสะอาดแล้ว แผ่นยางจะถูกพาดตากอยู่บนราว เพื่อให้ความชื้นในแผ่นยางลดลง สิ่งที่ต้องระวังในการผึ่งแผ่นยาง คือ แผ่นยางไม่ควรถูกแสงแดดโดยตรงเพราะจะทำให้ยางเสื่อมคุณภาพได้ง่าย และต้องระวังเรื่องความสะอาดของแผ่นยางที่ผึ่งไว้ด้วย
- การเก็บรวบรวมยางแผ่นดิบ ยางแผ่นที่ผึ่งลมเอาไว้ความชื้นจะค่อย ๆ ลดลงตามสภาวะอากาศ ชาวสวนที่ทำยางแผ่นด้วยวิธีนี้ จะค่อย ๆ เก็บรวบรวมยางแผ่นจนมีปริมาณมากเพียงพอ จึงจะนำไปจำหน่ายต่อไป แต่สิ่งที่ต้องระวังในช่วงการเก็บรวบรวมยางแผ่นดิบ คือ ยางแผ่นดิบที่จัดเก็บไว้ก่อน และยังคงมีความชื้นในแผ่นยางอยู่อาจจะเกิดราขึ้นที่ผิวยางได้ง่าย
ขั้นตอนหลังการทำแผ่นแล้วเสร็จ ( เชิงเดี่ยว )
หลังจากทำยางแผ่นดิบเสร็จแล้ว อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ควรได้รับการดูแลรักษา ดังนี้
- ต้องทำความสะอาดอาคารโรงเรือน ที่ใช้ในการทำงานให้อยู่ในสภาพที่สะอาด
- ต้องทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
- จัดเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมนำมาใช้งาน
- ควรตรวจสอบการจัดเก็บน้ำกรดให้อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย รวมทั้งกรดที่คงเหลือจากการใช้งานด้วย
- บำรุงรักษาเครื่องจักรสำหรับรีดยาง ให้อยุ่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ